วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คุณทราบหรือไม่ว่า ในโลกนี้มีอาหารเชิงซ้อน (food matrix)???


ทุกวันนี้ อาหารมากมายที่เรากำลังบริโภคกันอยู่นั้น ให้คุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาพึ่งพาอาหารเสริมกัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้ว อาหารเสริมที่บริษัทยารายใหญ่ต่างๆผลิตอยู่นั้น มากกว่าร้อยละ 90 ของแร่ธาตุและวิตามินที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมเหล่านั้น มีส่วนผสมของแร่ธาตุที่ถูกขุดขึ้นมาจากเหมืองทั่วโลก และ “หินบดละเอียด” (crushed rocksโดยที่หินและเคมีภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากร่างกายจะไม่ต้องการหรือไม่ยอมรับเป็นโภชนาหารแล้ว ในบางกรณียังก่อให้เกิดโทษอีกด้วย นั่นเท่ากับว่าในความพยายามทำสิ่งที่เป็นคุณแก่ร่างกาย กลับอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างแท้จริงแก่ตัวเอง โดยสารเคมีและหินปูนที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดของคุณนี่เอง คือ ต้นเหตุแห่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ในทางตรงกันข้าม ร่างกายของเราถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์จากโภชนาหารในพืช ยิ่งเราบริโภคอาหารเสริมที่ใกล้เคียงกับพืชมากเท่าใด ก็ยิ่งจะได้ประโยชน์ทางโภชนาการมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเราบริโภคพืชหรือส่วนต่างๆ ของพืชเป็นอาหาร โภชนาหารซึ่งประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่ ก็จะผูกติดไปกับโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน(lipids) เอนไซม์ และไบโอเฟลวานอยด์ (bioflavonoids) ในรูปโภชนาหารเชิงซ้อน (Complex food matrix) และเนื่องจากโภชนาหารดังกล่าวดำรงอยู่ใน สภาวะอาหาร ” (FOOD-STATE)ซึ่ง โภชนาหารที่พบในอาหารจะได้รับการยอมรับจากร่างกาย และร่างกายจะใช้มันเพื่อการบำรุงเลี้ยงส่วนต่างๆจึงมีปริมาณการดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกายสูงและทำให้อัตราการใช้ประโยชน์มีสูงกว่า 
โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์(food matrix) ถือเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งไม่ใช่สารเคมีที่ถูกแยกออกมาโดดๆดังเช่นอาหารเสริมทั่วๆไป ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวิธีการที่จะทำงานร่วมกับธรรมชาติ เพื่อผลิตโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์ ซึ่งเป็นการผนวกรวมวิตามิน และเกลือแร่อาหารที่แท้จริงเข้าด้วยกันโดยมีปัจจัยร่วม (cofactors) ที่สำคัญทุกอย่างยึดอยู่กับวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกายของคุณ โดยมีโปรตีน chaperones เป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อให้ร่างกายดูดซึม ส่งผ่านและเก็บกักสารอาหาร ซึ่งมีผลการวิจัยว่า โภชนาหารไม่ได้ล่องลอยไปทั่วร่างกายเพื่อค้นหาเซลล์ที่ต้องการ แต่มันถูกขนส่งเข้าไปด้วยโปรตีน chaperones ผ่านกระบวนการทางเคมี และตรงเข้าซ่อมแซมยังตำแหน่งที่แน่นอน จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมโภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์มีประสิทธิภาพมากกว่า
โดยจากการศึกษาวิจัยต่างๆ มีข้อสรุปว่า โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอาหารเสริมทั่วไปถึง 5 เท่า และสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าถึง 16 เท่า ดังนั้น โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์จึงเป็นโภชนาหารสำรองที่มีศักยภาพสุงที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ในยามที่ต้องการ โดยไม่จำเป้นต้องบริโภคในปริมาณมาก
เพื่อให้เข้าใจว่าโภชนาหารเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีขนาดไหน นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยสแครนตัน ได้ทำการทดสอบโดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  กับสารเคมีแบบ "แยกส่วน" (isolated chemicals) ที่มีต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวัยทารก กระบวนการเริ่มจากการเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดด้วยอาหารพร่องโภชนาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงเริ่มให้กลุ่มหนึ่งได้รับโภชนาหารแบบ "แยกส่วน" อีกกลุ่มหนึ่งได้รับโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  เป็นเวลา 4 สัปดาห์เท่ากัน ระหว่างนั้นก็ทำการชั่งน้ำหนักและบันทึกความเปลี่ยนแปลงลงบนกราฟ ผลปรากฏว่าสัตว์วัยอ่อนเหล่านี้ซึ่งเซลล์ร่างกายกำลังต้องการโภชนาหาร กลับไม่ได้รับประโยชน์จากโภชนาหารแบบ "แยกส่วน" ซ้ำยังมีน้ำหนักตัวลดลง ในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่ได้รับฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  กลับเติบโตและน้ำหนักของพวกมันได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงเวลา 4 สัปดาห์ การศึกษานี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โภชนาหารแบบแยกส่วนให้ผลน้อยมากหรืออาจไม่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์

เมื่อคุณทราบแบบนี้แล้ว คุณยังทานอาหารเสริมแบบเดิมๆอีกหรือ???
วันนี้แยมก็มาบอกเล่าเรื่องราวดีให้เพื่อนๆได้ทราบกัน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้ออาหารเสริมนะคะ..แล้วแยมจะหาเรื่องราวดีๆมาฝากอีกนะคะ...แล้วพบกันนะคะ....

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

" คนรวยมองหาวิธีการสร้างเครือข่าย ในขณะที่คนทั่วไป มองหางานทำ " คุณว่าจริงหรือ


(จากหนังสือพ่อรวยสอนลูก)

มีคำถามอยู่ 20 ข้อ ให้คุณลองถามตัวคุณเอง ด้วยใจที่เป็นกลาง
 1.คุณคิดว่าเงินเดือนที่คุณได้เทียบกับความสามารถของคุณเหมาะสมกันหรือไม่
2.คุณเบื่อไม๊ที่ต้องลุกจากที่นอนตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เพื่อที่รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่บนถนนอีกนับชั่วโมง
3.คุณพอใจแล้วใช่ไหมที่เงินเดือนของคุณถูกกำหนดด้วยปลายปากกาของคนที่เรียกว่า หัวหน้า และจะพิจารณาเพียงแค่ปีละ 1 ครั้ง และเพิ่มครั้งละ 5-10% ต่อไป
4.คุณชินไหมกับการที่ต้องขออนุญาติใครสักคนเพื่อที่จะไปพักผ่อน,ไปเยี่ยมคนที่คุณรัก, ไปทำอะไรที่คุณอยากทำในวันจันทร์-วันเสาร์

5.คุณ เคยมองขึ้นไปในบริษัทที่คุณทำงานอยู่ตอนนี้ไหมว่าหัวหน้าของคุณ ทำงานมากี่ปีแล้ว และมีรายได้เท่าไหร่ อีกกี่ปีคุณจะเงินเดือนเท่าเขาเหล่านั้น

6.คุณคิดว่าสินค้าทั่วไปตามท้องตลาดให้อะไรกับชีวิตคุณได้บ้าง นอกจากการซื้อใช้หมดไป ซื้อซ้ำใหม่เรื่อยๆ

7.คุณคิดว่า Big-C, Makro, Lotus, โชว์ห่วย, 7-11 ฯลฯ มีรายได้เดือนละเท่าไหร่? จากใคร?

8.คุณคิดว่าที่มีดารามาโฆษณาสินค้าค่าตัว 7 หลัก จริงๆ แล้วใครเป็นคนจ่ายค่าโฆษณา และสินค้านั้นคุณคิดว่าดาราได้ใช้จริงๆ หรือไม่

9.งาน ที่คุณทำวันนี้หากคุณเสียชีวิต รายได้ที่คุณเคยได้จะสามารถมีเข้าบัญชีคุณ เหมือนที่คุณยังมีชีวิตหรือไม่ หรือหากคุณไม่มีรายได้นี้แล้วคุณมีรายได้สำรองอะไรอีกไหม

10.คุณเคยรู้จัก อะไรสักอย่างที่ดีกับชีวิตคุณมากๆ ไหมครับ และเมื่อคุณรู้แล้วคุณจะเก็บไว้เพียงคนเดียว หรือจะบอกให้คนที่คุณรักได้รู้ด้วย

11.คุณเชื่อหรือไม่ครับว่าตัวคุณเองเป็นคนที่มีศักยภาพ และมีความสามารถที่จะสามารถเป็นผู้นำครอบครัวและผู้นำเพื่อนๆ

12.คุณเชื่อหรือไม่ครับว่ามนุษย์ทุกคนมีความต้องการ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น

13.คุณมีความมั่นคงในชีวิตแล้วหรือยัง

14.หาก คุณรู้ว่าเพื่อนคุณ ญาติคุณ หรือคนที่คุณรู้จักกำลังทำงานบางอย่างที่สุจริต เพื่อคนที่เค้ารักด้วยใจมุ่งมั่น ด้วยหัวใจที่ต้องการกตัญญูต่อพ่อแม่ ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เค้ารัก ต้องการวางรากฐานความมั่นคงให้กับ ลูก เมีย คุณจะคิดยังไงกับเค้าเหล่านั้น

15.อีก 3-5 ปีข้างหน้าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ ทำงานตำแหน่งอะไร ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปจากวันนี้หรือไม่

16.หากวันนี้คุณประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ คุณจะหารายได้จากไหนเพื่อเลี้ยงชีวิต

17.คุณอยากมีเวลาอยู่กับคนที่คุณรักมากกว่าปัจจุบันไหม หรือว่าแค่เจอกันหลังเลิกงานหรือช่วงวันหยุดก็พอแล้ว

18.คุณแปลกใจไหมว่าคนที่จบดอกเตอร์, อาจารย์, บัณฑิตเกียรตินิยม, ญาติคุณ, คนที่คุณรัก, คนที่คุณรู้จัก ฯลฯ ถึงมาทำธุรกิจเครือข่าย คุณคิดว่าเค้าเหล่านั้นโง่หรือโดนล้างสมอง หรือเค้าเห็นอะไรที่มากกว่าที่คุณเห็น

19.คุณคิดว่าคุณรู้จักธุรกิจเครือข่ายดีแค่ไหน รู้จากใคร รู้ตอนที่คุณเปิดใจฟังหรือปิดใจฟัง ได้ศึกษาดีแล้วหรือยังที่จะตัดสินอะไรว่าดีหรือไม่ดี (จริงๆ ข้อนี้ไม่อยากถามแต่มันจำเป็นต้องถามจริง)

20.หากคุณเป็นเจ้าของกิจการอยู่แล้ว คุณคิดว่าลูกคุณจะมาทำกิจการของคุณต่อไหม หากลูกคุณไม่ทำกิจการของคุณจะเป็นอย่างไร

เป็นคำถามที่น่าสนใจ...จริงไหม

เพราะแยมก็เชื่อว่าหลายๆคน ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่เพราะเค้าไม่ชอบ แต่เพราะเค้ายังไม่เข้าใจมากกว่า....

หมายเหตุ  ธุรกิจ MLM ถูกมองในด้านลบมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจกัน มักใช้วิธีผิดๆ เช่น  หลอกรับสมัครพิมพ์งานส่งอีเมล์ 500บาท/วัน หลอกว่าให้รีบสมัครเป็นต้นสาย ไม่ต้องทำอะไรก็มีรายได้ ฯลฯ