วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คนทุกคนสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ คุณว่าคำพูดนี้จริงหรือไม่???

หลายๆคน เมื่อเห็นคำพูดนี้แล้ว คงจะบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะการที่คนเราจะประสบความสำเร็จนั้น มันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง แต่วันนี้ แยมเอง อยากจะบอกว่า คำพูดนี้ มันเป็นไปได้ 100% แน่นอน

เรามาดูกันว่า แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง???

แยมเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็อยากที่จะเป็นที่ 1 อยากเป็นตนที่ประสบความสำเร็จที่จะมีทั้ง เงินทอง ชีวิตที่แสนจะสุขสบาย มีอิสรภาพทางการเวลา มีความสุข และมีความพร้อมในทุกๆด้านของชีวิต 

คุณว่าตัวคุณอยากที่จะเป็นแบบนั้นไหม???

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ธุรกิจเครือข่ายกับปัญหาแบบเดิมๆ!!!

สวัสดีวันพ่อค่ะ ทุกท่านวันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีวันหนึ่งเลยนะคะ ไม่ทราบว่า วันนี้คุณบอกรักพ่อของคุณแล้วหรือยังคะ ถ้ายัง แยมแนะนำให้รีบบอกท่านซะนะคะ แล้วเราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง แหม! วันนี้เกริ่นมาตั้งนาน แต่ เอ! มันตรงกับหัวเรื่องตรงไหนเนี่ย เอาละ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ
วันนี้แยมจะมาบอกถึงปัญหาเดิมๆที่เราต้องเจอกันทุกคน เวลาที่เราเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ แล้วมันปัญหาอะไรล่ะ?? ใครพอจะนึกออกบ้าง เอาละ งั้นแยมบอกให้ละกัน ปัญหาที่ว่าก็คือ การชวนคนนั่นเอง แล้วพอเราชวนไปแล้ว คนที่เราชวนเค้าก็เลยเลิกคบกับเรา ทั้งๆที่เราอุตส่าห์ไปแนะนำสิ่งดีๆให้แท้ๆ ใครเคยเจอแบบนี้บ้างคะ

คราวนี้พอมองเห็นหรือยังคะว่า การทำธุรกิจเครือข่ายที่ ที่ปรึกษาแนะนำคุณว่าทำแบบนี้แล้วเวิร์ค เช่นการลิสต์รายชื่อคนรู้จักอย่างน้อย 100  คน แล้วกระหน่ำโทรหานัดหมายไปคุย ไปขาย ไปชวนทำธุรกิจเครือข่าย  บางคนหนักกว่านั้นคุยกับทุกคนบนท้องถนน เค้าบอกว่าทุกคนคือเป้าหมาย  หรือรีบโทรไปบอกเพื่อนว่าเราทำธุรกิจเครือข่ายอยู่มาทำกับเราด่วน เค้าบอกว่าทำมาแล้ว พิสูจน์แล้ว อย่าไปทำอะไรใหม่ๆ อย่าไปมัวนั่งคิดหาทางใหม่ เอ้ายังเห็นด้วยกับเค้ามั๊ยล่ะคะ? แล้วถ้าเห็นด้วย คุณว่ามันเวิร์คจริงอย่างที่เค้าแนะนำหรือเปล่า

คุณลองมองดีๆนะคะว่า คุณกำลังหาคนเพื่อเข้าร่วมธุรกิจด้วยกัน หรือว่าคุณกำลังไล่คนให้หนีจากธุรกิจนี้กันแน่ ???

คุณว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นสิ่งที่ดี ที่จะตอบโจทย์ชีวิตและความฝันให้คุณได้ แต่วิธีการและระบบที่คุณกำลังทำอยู่มันถูกต้องแล้วหรือ???

และนี่แหละคือคำตอบว่า ทำไมคนที่ทำธุรกิจเครือข่าย 99% ถึงล้มเหลว ก็เพราะเค้าทำแต่วิธีการแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะย้ายไปกี่บริษัท เค้าเหล่านั้นก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี แล้วคุณยังอยากจะป็นเหมือนเค้าเหล่านั้นอยู่หรือเปล่า???

ถ้าไม่!!! คุณลองถามตัวคุณเองดู ว่าอะไรที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ แล้วลองปรับเปลี่ยนมันดูซิคะ

วันนี้แยมก็เล่าซะยาวอีกตามเคย ไว้คราวหน้าแยมจะมาบอกว่าเราครที่จะปรับเปลี่ยนในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย...แล้วพบกันนะคะ...  

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คุณเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย MLM แบบนี้หรือเปล่า ???

·         Ø ถ้าเวลาไปเที่ยวเพื่อน ในกลุ่มเพื่อนมีอยู่คนหนึ่งคุยแต่เรื่องธุรกิจให้เพื่อนฟังคุณจะรู้สึกอย่างไร
·         Ø ถ้าเวลาเจอหน้าญาติเมื่อไหร่ เป็นต้องแนะนำผลิตภัณฑ์หรือโอกาสทางธุรกิจไปซะทุกครั้ง เป็นคุณๆชอบหรือมั๊ยล่ะคะ
·         Ø เพื่อนไม่เคยคุยกันมาเป็นปีๆ โทรมาบอกว่ามีผลิตภัณฑ์มาเสนอ หรือมีโอกาสธุรกิจมาเสนอคุณอยากฟังไหม (ก่อนหน้านั้นไปอยู่ไหนมาเนี่ย)
·         Ø เปิดหน้าเวปก็เจอแต่โฆษณาโอกาสทางธุรกิจ ก้อธุรกิจเครือข่ายนั่นแหละ เต็มไปหมด คุณปิดเวปนั้นทิ้งหรือเปล่าล่ะ มันเยอะเกินไป อ่านไม่ทัน เยอะจริงๆค่ะ
คุณเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่าค่ะ ถ้าใช่!!! แล้วคุณชอบที่จะทำแบบนี้มั๊ย ถ้าคำตอบของคุณคือ ใช่  แยมก็แนะนำให้คุณทำต่อไป แต่คิดว่าหลายๆคนคงจะตอบว่าไม่ใช่ ซึ่งแยมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบวิธีการแบบนี้ เอ!!!แล้วแบบนี้เราควรจะทำยังไงดีล่ะ คำตอบนั้นง่ายมากค่ะ เราก็ทำในแบบที่เราชอบสิค่ะ แล้วแบบไหนล่ะที่เราชอบแล้วคนอื่นก็ชอบด้วย หลายคนคงสงสัย ไว้คราวหน้าแยมจะมาบอกละกันนะคะ...ไว้พบกันนะคะ...

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เริ่มต้นการทำธุรกิจเครือข่าย ด้วยการ หยุด!


หลายคนที่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายคงสงสัยว่า เราจะเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายกันยังไงดี บางคนก็บอกว่าให้เราเริ่มชวนคนก่อน ยิ่งชวนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่บางคนบอกว่าให้ใช้สินค้าและศึกษาแผนการตลาดจนเข้าใจก่อน เข้าประชุมต่างๆก่อน บางคนก็ว่าพาคนเข้าระบบเลย แยมทำธุรกิจเครือข่ายมาหลายตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา หรือว่า บริษัทชื่อดังของคนไทย แต่ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนต่างก็บอก หรือ สอนให้เราเริ่มงานทันที แล้วแยมก็ทำตาม เพราะเห็นว่า เค้าทำกันสำเร็จมากมายด้วยวิธีการแบบนี้ แล้วแยมก็เชื่อว่ามีหลายคนที่เป็นแบบเดียวกัน แต่ทุกท่านเชื่อไหมค่ะว่า วิธีการที่เรากำลังทำกันอยู่นั้น มันทำให้คนหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน ญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก ไม่อยากที่จะติดต่อกับเรา เพราะอะไรหรือค่ะ ก็เพราะว่า มันเป็นการ ไล่ล่า นั่นเอง เมื่อเราไล่ล่าคน ทุกคนที่เราไปหาก็จะหนีเรา จริงไหมค่ะ แล้วยังนี้เราควรจะทำยังไงกันดี หลายคนคงสงสัยและอยากจะรู้...

แยมอยากจะบอกกับทุกท่านว่า เราควรที่จะ “หยุด” ค่ะ  หลายคนคงคิดว่าแยมบ้าแน่ๆ ถ้าหยุดแล้วจะทำธุรกิจได้ยังไง แยมจะอธิบายให้ฟังค่ะ

ทุกท่านเคนสงสัยไหมค่ะว่า ทำไมเราต้องเรียนหนังสือกันตั้งหลายปี บางคนเรียนจบถึงปริญญาเอกด้วยซ้ำไป เพราะอะไรค่ะ ก็เพราะว่า เราจะได้มีความรู้เพียงพอที่จะนำไปใช้ในการทำงานได้ยังไงล่ะค่ะ แล้วทีนี้ พอเราเข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย เราเคยหยุดคิดซักนิดมั๊ยค่ะ ว่าเราได้เริ่มศึกษา อะไรที่เกี่ยวกับธุรกิจที่เราทำอยู่กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น สินค้า แผนการตลาด หรือว่าระบบต่างๆที่รองรับในการทำธุรกิจ เราเคยศึกษากันอย่างจริงๆ จังๆ กันบ้างหรือยังค่ะ ถ้ายัง วันนี้ทุกท่านลอง “หยุด” เวลาในการไล่ล่าคนซักพักนึง แล้วลองคิดให้ได้ว่า หากคุณจะเริ่มต้นทำธุรกิจ คุณจะต้องทำงานแบบไหน อย่างไร คุณต้องลงทุนในเรื่องใดบ้าง คิดให้หมดนะคะ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าประชุมต่างๆ ค่าที่พัก คิดล่วงหน้าไปซัก 6 เดือนเลยค่ะ เพื่อที่เราจะได้วางแผนการทำงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเราและทีมงานของเรา

สำหรับวันนี้ อาจจะยาวไปหน่อย แต่คราวหน้า แยมจะเขียนให้สั้นลงกว่านี้ค่ะ สัญญา .. แล้วพบกันใหม่นะคะ...

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คุณทราบหรือไม่ว่า ในโลกนี้มีอาหารเชิงซ้อน (food matrix)???


ทุกวันนี้ อาหารมากมายที่เรากำลังบริโภคกันอยู่นั้น ให้คุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาพึ่งพาอาหารเสริมกัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้ว อาหารเสริมที่บริษัทยารายใหญ่ต่างๆผลิตอยู่นั้น มากกว่าร้อยละ 90 ของแร่ธาตุและวิตามินที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมเหล่านั้น มีส่วนผสมของแร่ธาตุที่ถูกขุดขึ้นมาจากเหมืองทั่วโลก และ “หินบดละเอียด” (crushed rocksโดยที่หินและเคมีภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากร่างกายจะไม่ต้องการหรือไม่ยอมรับเป็นโภชนาหารแล้ว ในบางกรณียังก่อให้เกิดโทษอีกด้วย นั่นเท่ากับว่าในความพยายามทำสิ่งที่เป็นคุณแก่ร่างกาย กลับอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างแท้จริงแก่ตัวเอง โดยสารเคมีและหินปูนที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดของคุณนี่เอง คือ ต้นเหตุแห่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ในทางตรงกันข้าม ร่างกายของเราถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์จากโภชนาหารในพืช ยิ่งเราบริโภคอาหารเสริมที่ใกล้เคียงกับพืชมากเท่าใด ก็ยิ่งจะได้ประโยชน์ทางโภชนาการมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเราบริโภคพืชหรือส่วนต่างๆ ของพืชเป็นอาหาร โภชนาหารซึ่งประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่ ก็จะผูกติดไปกับโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน(lipids) เอนไซม์ และไบโอเฟลวานอยด์ (bioflavonoids) ในรูปโภชนาหารเชิงซ้อน (Complex food matrix) และเนื่องจากโภชนาหารดังกล่าวดำรงอยู่ใน สภาวะอาหาร ” (FOOD-STATE)ซึ่ง โภชนาหารที่พบในอาหารจะได้รับการยอมรับจากร่างกาย และร่างกายจะใช้มันเพื่อการบำรุงเลี้ยงส่วนต่างๆจึงมีปริมาณการดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกายสูงและทำให้อัตราการใช้ประโยชน์มีสูงกว่า 
โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์(food matrix) ถือเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งไม่ใช่สารเคมีที่ถูกแยกออกมาโดดๆดังเช่นอาหารเสริมทั่วๆไป ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวิธีการที่จะทำงานร่วมกับธรรมชาติ เพื่อผลิตโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์ ซึ่งเป็นการผนวกรวมวิตามิน และเกลือแร่อาหารที่แท้จริงเข้าด้วยกันโดยมีปัจจัยร่วม (cofactors) ที่สำคัญทุกอย่างยึดอยู่กับวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกายของคุณ โดยมีโปรตีน chaperones เป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อให้ร่างกายดูดซึม ส่งผ่านและเก็บกักสารอาหาร ซึ่งมีผลการวิจัยว่า โภชนาหารไม่ได้ล่องลอยไปทั่วร่างกายเพื่อค้นหาเซลล์ที่ต้องการ แต่มันถูกขนส่งเข้าไปด้วยโปรตีน chaperones ผ่านกระบวนการทางเคมี และตรงเข้าซ่อมแซมยังตำแหน่งที่แน่นอน จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมโภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์มีประสิทธิภาพมากกว่า
โดยจากการศึกษาวิจัยต่างๆ มีข้อสรุปว่า โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอาหารเสริมทั่วไปถึง 5 เท่า และสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าถึง 16 เท่า ดังนั้น โภชนาหารในฟู้ดแมทริกซ์จึงเป็นโภชนาหารสำรองที่มีศักยภาพสุงที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ในยามที่ต้องการ โดยไม่จำเป้นต้องบริโภคในปริมาณมาก
เพื่อให้เข้าใจว่าโภชนาหารเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีขนาดไหน นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยสแครนตัน ได้ทำการทดสอบโดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  กับสารเคมีแบบ "แยกส่วน" (isolated chemicals) ที่มีต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวัยทารก กระบวนการเริ่มจากการเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดด้วยอาหารพร่องโภชนาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงเริ่มให้กลุ่มหนึ่งได้รับโภชนาหารแบบ "แยกส่วน" อีกกลุ่มหนึ่งได้รับโภชนาหารฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  เป็นเวลา 4 สัปดาห์เท่ากัน ระหว่างนั้นก็ทำการชั่งน้ำหนักและบันทึกความเปลี่ยนแปลงลงบนกราฟ ผลปรากฏว่าสัตว์วัยอ่อนเหล่านี้ซึ่งเซลล์ร่างกายกำลังต้องการโภชนาหาร กลับไม่ได้รับประโยชน์จากโภชนาหารแบบ "แยกส่วน" ซ้ำยังมีน้ำหนักตัวลดลง ในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่ได้รับฟู้ดแมทริกซ์(food matrix)  กลับเติบโตและน้ำหนักของพวกมันได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงเวลา 4 สัปดาห์ การศึกษานี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โภชนาหารแบบแยกส่วนให้ผลน้อยมากหรืออาจไม่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์

เมื่อคุณทราบแบบนี้แล้ว คุณยังทานอาหารเสริมแบบเดิมๆอีกหรือ???
วันนี้แยมก็มาบอกเล่าเรื่องราวดีให้เพื่อนๆได้ทราบกัน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้ออาหารเสริมนะคะ..แล้วแยมจะหาเรื่องราวดีๆมาฝากอีกนะคะ...แล้วพบกันนะคะ....

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

" คนรวยมองหาวิธีการสร้างเครือข่าย ในขณะที่คนทั่วไป มองหางานทำ " คุณว่าจริงหรือ


(จากหนังสือพ่อรวยสอนลูก)

มีคำถามอยู่ 20 ข้อ ให้คุณลองถามตัวคุณเอง ด้วยใจที่เป็นกลาง
 1.คุณคิดว่าเงินเดือนที่คุณได้เทียบกับความสามารถของคุณเหมาะสมกันหรือไม่
2.คุณเบื่อไม๊ที่ต้องลุกจากที่นอนตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เพื่อที่รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่บนถนนอีกนับชั่วโมง
3.คุณพอใจแล้วใช่ไหมที่เงินเดือนของคุณถูกกำหนดด้วยปลายปากกาของคนที่เรียกว่า หัวหน้า และจะพิจารณาเพียงแค่ปีละ 1 ครั้ง และเพิ่มครั้งละ 5-10% ต่อไป
4.คุณชินไหมกับการที่ต้องขออนุญาติใครสักคนเพื่อที่จะไปพักผ่อน,ไปเยี่ยมคนที่คุณรัก, ไปทำอะไรที่คุณอยากทำในวันจันทร์-วันเสาร์

5.คุณ เคยมองขึ้นไปในบริษัทที่คุณทำงานอยู่ตอนนี้ไหมว่าหัวหน้าของคุณ ทำงานมากี่ปีแล้ว และมีรายได้เท่าไหร่ อีกกี่ปีคุณจะเงินเดือนเท่าเขาเหล่านั้น

6.คุณคิดว่าสินค้าทั่วไปตามท้องตลาดให้อะไรกับชีวิตคุณได้บ้าง นอกจากการซื้อใช้หมดไป ซื้อซ้ำใหม่เรื่อยๆ

7.คุณคิดว่า Big-C, Makro, Lotus, โชว์ห่วย, 7-11 ฯลฯ มีรายได้เดือนละเท่าไหร่? จากใคร?

8.คุณคิดว่าที่มีดารามาโฆษณาสินค้าค่าตัว 7 หลัก จริงๆ แล้วใครเป็นคนจ่ายค่าโฆษณา และสินค้านั้นคุณคิดว่าดาราได้ใช้จริงๆ หรือไม่

9.งาน ที่คุณทำวันนี้หากคุณเสียชีวิต รายได้ที่คุณเคยได้จะสามารถมีเข้าบัญชีคุณ เหมือนที่คุณยังมีชีวิตหรือไม่ หรือหากคุณไม่มีรายได้นี้แล้วคุณมีรายได้สำรองอะไรอีกไหม

10.คุณเคยรู้จัก อะไรสักอย่างที่ดีกับชีวิตคุณมากๆ ไหมครับ และเมื่อคุณรู้แล้วคุณจะเก็บไว้เพียงคนเดียว หรือจะบอกให้คนที่คุณรักได้รู้ด้วย

11.คุณเชื่อหรือไม่ครับว่าตัวคุณเองเป็นคนที่มีศักยภาพ และมีความสามารถที่จะสามารถเป็นผู้นำครอบครัวและผู้นำเพื่อนๆ

12.คุณเชื่อหรือไม่ครับว่ามนุษย์ทุกคนมีความต้องการ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น

13.คุณมีความมั่นคงในชีวิตแล้วหรือยัง

14.หาก คุณรู้ว่าเพื่อนคุณ ญาติคุณ หรือคนที่คุณรู้จักกำลังทำงานบางอย่างที่สุจริต เพื่อคนที่เค้ารักด้วยใจมุ่งมั่น ด้วยหัวใจที่ต้องการกตัญญูต่อพ่อแม่ ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เค้ารัก ต้องการวางรากฐานความมั่นคงให้กับ ลูก เมีย คุณจะคิดยังไงกับเค้าเหล่านั้น

15.อีก 3-5 ปีข้างหน้าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ ทำงานตำแหน่งอะไร ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปจากวันนี้หรือไม่

16.หากวันนี้คุณประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ คุณจะหารายได้จากไหนเพื่อเลี้ยงชีวิต

17.คุณอยากมีเวลาอยู่กับคนที่คุณรักมากกว่าปัจจุบันไหม หรือว่าแค่เจอกันหลังเลิกงานหรือช่วงวันหยุดก็พอแล้ว

18.คุณแปลกใจไหมว่าคนที่จบดอกเตอร์, อาจารย์, บัณฑิตเกียรตินิยม, ญาติคุณ, คนที่คุณรัก, คนที่คุณรู้จัก ฯลฯ ถึงมาทำธุรกิจเครือข่าย คุณคิดว่าเค้าเหล่านั้นโง่หรือโดนล้างสมอง หรือเค้าเห็นอะไรที่มากกว่าที่คุณเห็น

19.คุณคิดว่าคุณรู้จักธุรกิจเครือข่ายดีแค่ไหน รู้จากใคร รู้ตอนที่คุณเปิดใจฟังหรือปิดใจฟัง ได้ศึกษาดีแล้วหรือยังที่จะตัดสินอะไรว่าดีหรือไม่ดี (จริงๆ ข้อนี้ไม่อยากถามแต่มันจำเป็นต้องถามจริง)

20.หากคุณเป็นเจ้าของกิจการอยู่แล้ว คุณคิดว่าลูกคุณจะมาทำกิจการของคุณต่อไหม หากลูกคุณไม่ทำกิจการของคุณจะเป็นอย่างไร

เป็นคำถามที่น่าสนใจ...จริงไหม

เพราะแยมก็เชื่อว่าหลายๆคน ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่เพราะเค้าไม่ชอบ แต่เพราะเค้ายังไม่เข้าใจมากกว่า....

หมายเหตุ  ธุรกิจ MLM ถูกมองในด้านลบมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจกัน มักใช้วิธีผิดๆ เช่น  หลอกรับสมัครพิมพ์งานส่งอีเมล์ 500บาท/วัน หลอกว่าให้รีบสมัครเป็นต้นสาย ไม่ต้องทำอะไรก็มีรายได้ ฯลฯ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตคุณเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่า? แล้วยังจะเป็นต่อไปอีกนานแค่ไหน?

ตื่นนอนแต่เช้า เร่งรีบเพื่อไปให้ทันเวลาทำงาน
เบื่อหน่ายกับงานที่ซ้ำซากจำเจ หาความก้าวหน้าไม่ได้
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว หรือใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง
ทุ่มเทให้กับการทำงาน แต่ก็ยังถูกมองว่าไม่ดีพอ
อยากจะมีอิสระ ไปท่องเที่ยวในที่ที่อยากไป แต่ก็ได้แค่เพียงคิด

ให้คำสัญญาในเรื่องการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับคนที่คุณรัก แต่ก็ยังทำไม่ได้สักที
อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ก็ไม่มีเงินที่จะมาลงทุน ไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจ โอกาสเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง
เงินเดือนเพียงอย่างเดียวแทบไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ทำงานมาตั้งหลายปีแต่ก็ยังมีเงินเก็บไม่เท่าไหร่
อยากมีชีวิตที่ดีกว่าทุกวันนี้ แต่ยังไม่พบโอกาสเสียที

แล้วเคยลองถามตัวเองหรือยังว่า...

"สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ สามารถทำให้สิ่งต่างๆ ที่เราวาดฝันไว้เป็น
จริงได้มากน้อยแค่ไหน..."

"ถ้าเราทำอย่างทุกวันนี้ อีก 5 ปีข้างหน้าชีวิตเราจะเป็นไปตามที่
เราคาดหวังมากน้อยเพียงใด..."

"แล้วตอนเราอายุ 60 ล่ะ ชีวิตเราจะเป็นไปอย่างที่เราคาดหวังไว้
ตอนนี้หรือเปล่า..."

คุณพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเองและคนที่คุณรักหรือยัง?

หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการมีชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้น ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียก่อน
ทำในสิ่งใหม่ๆ ทำในสิ่งที่คุณอาจไม่เคยทำแต่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่ามีคนอื่นที่ไม่เคยทำเหมือนคุณ
เรียนรู้และทำได้ผล ถ้าคุณลงมือทำ... อีกไม่นานคุณก็จะพบว่าคุณมีความสามารถใหม่ๆ มีความเคยชิน
ใหม่ๆ และมีชีวิตใหม่อย่างที่คุณต้องการ

คุณจะยอมเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองหรือไม่ หากคำตอบคือ "ไม่หรือมีโอกาสที่ดีกว่าอยู่แล้ว"
.. เราขออภัยด้วยสำหรับการสละเวลาดูข้อมูลตรงนี้ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้...

แต่หากคำตอบคือ "พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลง" เราพร้อมที่จะสอนทุกสิ่งแก่ คุณ ช่วยเหลือคุณ
ในก้าวเดินต่อไปจนกว่าคุณจะประสบความสำเร็จในจุดที่คุณต้องการ คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอ
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.aragonclubonline.com/
(หากคลิ๊กแล้วไม่สามารถเปิดได้ สามารถคัดลอก URL ข้างต้นไปวางได้ค่ะ)